Sc4logo-nv5-dk-ccw-377
Narong-11-cr-THAI

จานีน ยโสวันต์

อินไซท์ 

September 2014

เมื่อดิฉันติดต่อคุณณรงค์ วรรณสาเพื่อขอสัมภาษณ์ ดิฉันพบว่าคุณณรงค์ไป
สอนศิลปะเด็กนักเรียนหลายๆ โรงเรียนในเขตชุมชนนอกตัวเมือง คุณณรงค์
บอกกับดิฉันว่าเขาอยากจะมอบบางสิ่งให้กับสังคมโดยที่ไม่ต้องอาศัยเงิน
งบประมาณ เพื่อการนี้เขาปฎิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเมื่อตอนที่เขาไปสอนนักเรียน
ยากจนที่ขาดเงินทองและโอกาส นักเรียนมาจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์
27 ในจังหวัดหนองคาย ความตั้งใจหลักของเขานั้นทำเพื่อในหลวง

 

ในความคิดของดิฉัน งานของคุณณรงค์นั้นค่อนข้างแตกต่างจากนักศึกษา
ศิลปะในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่สังเกตุได้คือวิธีการใช้สีและแนวคิด
เรื่องกายวิภาคนั้นประทับใจดิฉันมาก ตามที่ได้เห็นในผลงานชุดหลังๆ สัตว์ที่
เขาชื่นชอบในการวาดมากที่สุดคือควาย จากมุมมองของอดีตจนถีงปัจจุบัน
ควายยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของชาวนาไทยที่ปลูกข้าว มีสุภาษิตไทยเก่าแก่แนว

 

Narong-23-cr

 

ตลกขบขันบทหนึ่งที่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างนกเอี้ยงและควายไว้ว่า
"นกเอี้ยงมาเลี้ยงควายเฒ่า ควายกินข้าวนกเอี้ยงหัวโต" สุภาษิตบทนี้สอนให้
เด็กอย่าทำตัวขี้เกียจเหมือนนกเอี้ยงบนหลังควาย ภาพลักษณ์ของนกเอี้ยงเลย
ถูกมองไปในแง่ลบ แต่ในความเป็นจริงแล้วการอาศัยอยู่ของนกเอี้ยงนั้นสำคัญ
ต่อควายเพราะนกเอี้ยงจะช่วยขับไล่แมลงต่างๆ ที่จะเป็นอันตรายแก่ควาย
ออกไป แมลงต่างๆเหล่านี้จะเป็นอาหารอันโอชะสำหรับนกเอี้ยงอีกด้วย ฝูงนก
เอี้ยงบนหลังควายส่งเสียงดังมาก บางครั้งก็จิกตีพวกเดียวกันเองแต่นี่ดู
เหมือนว่าจะไม่ได้รบกวนควายเลยไม่ว่าในทางใดก็ตาม

 

Narong-16-cr

 

วันหนึ่งศิลปินคุณศุภวัตร ทองละมุล มาที่บ้านดิฉันเชียงใหม่ เพื่อมาหา
น้องชายของดิฉันหลังจากการไปเขียนภาพฝาผนังที่วัดต่างๆในภาคตะวันออก
เฉียง เหนือของประเทศไทยเป็นเวลาแปดเดือน ตอนที่ดิฉันพบคุณศุภวัตร ก็
เลยถามถึงคุณณรงค์ วรรณสา ดิฉันรู้สึกสนใจถึงโครงงานศิลปะที่คุณณรงค์
กลับมาทำต่อและดิฉันยังไม่แน่ใจว่าผลงานเหล่านี้จัดทำโดยทีมงานเดียวกัน
หรือไม่ ในตอนที่คุณณรงค์รอคุณแม่ของเขาที่โรงพยาบาล เขาวาดเสือแปดตัว
ลงบนเฟรมผ้าใบและต่อมาเขาได้ลงภาพนั้นทาง Facebook ดิฉันพูดคุยกับเขา
สั้นๆเกี่ยวกับภาพนี้และเขาบอกว่าภาพนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ดิฉันไม่ค่อยทราบ
อะไรมากเกี่ยวกับคุณณรงค์ ประวัติส่วนตัว การศึกษาและผลงานที่ผ่านมา ใน
ตอนแรกดิฉันขอให้คุณศุภวัตรติดต่อคุณณรงค์เพื่อขอทำการสัมภาษณ์ โชคดี
ที่คุณณรงค์ตอบตกลงในขณะที่ตอนนั้นเขาเขายังมีภาระหน้าที่ไปเป็นครูสอน
ศิลปะในโรงเรียน และต้องเดินทางทุกวัน  คุณณรงค์ตอบว่าเขาได้เงินค่าซื้อ
วัสดุอุปกรณ์มาไม่มากนักแต่เขาก็เต็มใจจะไปที่จังหวัดหนองคาย

 

Narong-28-cr

 

จานีน: ดิฉันอยากทราบเรื่องราวชีวิตของคุณตอนเป็นเด็กและเรื่องการศึกษา

 

ณรงค์: เมื่อตอนที่ผมยังเป็นเด็ก คุณแม่ส่งผมไปโรงเรียนประจำเป็นเวลา 12 ปี
ตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 1 จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งนั้นมีชื่อว่า
โรงเรียนสงเคราะห์ธวัชบุรีและโรงเรียนตั้งอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด พ่อแม่ของผมมี
บุตรสามคน และผมเป็นคนเดียวที่ถูกส่งไปเรียนที่ต่างจังหวัดเพราะคุณแม่
ทราบว่าผมรักการวาดรูป จนถึงทุกวันนี้ผมส่งผลงานมากกว่าร้อยชิ้นเข้าร่วม
ประกวดในการแข่งขันทางศิลปะหลายๆงาน 13 ปีที่แล้วผมได้รับรางวัลที่สอง
การงานประกวดผลงานศิลปะที่จัดโดยองค์การสหประชาชาติ หัวข้อของงาน
คือประชากรและสิ่งแวดล้อม ต่อมาผมได้รางวัลอันดับสองอีกครั้งหนึ่งจากการ
แข่งขันออกแบบโปสเตอร์ ในเวลานี้คนที่ได้อันดับหนึ่งเป็นชาวแอฟริกัน นี่เป็น

 

Narong-7-cr

 

แรงบันดาลใจให้ผมเลือกวิธีการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง หลังจากที่ผมจบจาก
โรงเรียนแล้วผมตัดสินใจศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตบางแสน
พัทยา เพราะความสะดวกสบายมากกว่าในการหาห้องพักและผมสามารถ
บริหารค่าเดินทางได้ดีกว่า ในตอนที่ผมเรียนอยู่ก็ทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงดู
ตนเองไปด้วยโดยที่ไม่มีผลกระทบกับการเรียน ในปีที่สามผมโอนหน่วยการ
เรียนไปเป็นนักเรียนเปลี่ยนในมณฑลยูนนาน ประเทศจีนเป็นเวลา 1 ภาค
การศึกษา มหาวิทยาลัยที่ผมไปเรียนคือมหาวิทยาลัยต้าหลี่ อาจารย์ใน
ภาควิชาศิลปะเป็นศิลปินจริงๆ และทุกท่านเมตตาผมมาก ต้าหลี่เป็นเมืองแห่ง
ศิลปะที่สวยงามและวิวทิวทัศน์ตระการตา อาหารการกินที่นั่นก็ดีเช่นเดียวกัน
เหตุผลต่างๆ เหล่านี้ทำให้ผมยืดเวลาการศึกษาและจบปริญญาตรีที่นั่น ในปี
พ.ศ. 2534 ผมจัดงานนิทรรศการเดี่ยวขึ้นในเมืองต้าหลี่และภาพเขียนของผม
ถูกขายไปเกือบทั้งหมด ผมนำติดตัวกลับมาสองสามรูปไว้เป็นที่ระลึก อาจารย์
มากล่าวอำลาที่สนามบินในวันสุดท้ายที่ผมอยู่ในประเทศจีน และหนึ่งในนั้นได้
มอบคำแนะนำทิ้งท้ายเอาไว้ว่าศิลปินคนไหนก็ตามสามารถวาดภาพเหมือนได้
ถ้าได้รับการฝึกฝนอย่างเพียงพอแต่จะดีกว่ามากถ้าเขาไปค้นหาความเป็น
เอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

Narong-4-cr

 

จานีน: คุณคิดเห็นอย่างไรกับความมีเอกลักษณ์ในวัฒนธรรมไทยภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ

 

ณรงค์: ทิวทัศน์ภูมิประเทศเช่นภูเขา ป่าไม้ นาข้าว แสดงถึงภาพที่เป็น
เอกลักษณ์ของวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ผมเริ่มมี
ความคิดว่าควายสามารถเป็นตัวแทนในเรื่องนี้ได้ และนี่ก็ยังเป็นแรงบรรดาลใจ
จากครอบครัวของผมในจังหวัดกาฬสินธ์ เมื่อตอนที่ผมยังเด็กผมเห็นควายและ
ชาวนาอยู่ในนาข้าว ไม่เพียงแค่นั้นป่าไม้และนกยังแตกต่างไปจากภาคอื่นๆใน
ประเทศไทยอีกด้วย ผมลองวาดสัตว์ต่างๆเช่นช้าง ม้า วัว ควาย แต่ท้ายที่สุด
ผมก็เลือกวาดควายในหลายๆฉากและอิริยาบถต่างๆ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและ
อารมณ์ความรู้สึก เขาควายเป็นเหมือนกิ่งไม้ ผมเคยเห็นฝูงนกเอี้ยงบนหลัง
ควาย ภาพเขียนบางภาพของผมก็มีงู วิวทิวทัศน์ของป่าไม้ในเขตภาคอีสานนั้น
แตกต่างไปจากป่าไม้ที่อื่นๆ สิ่งที่ผมพยายามใช้มากที่สุดในการเขียนคือความ
เป็นส่วนตัว และลักษณะเฉพาะในรูปแบบเดียวกันกับจิตวิญญาณอันลึกซึ้งของ
คนไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพเขียนในปัจจุบันของผมทั้งหมดนั้นถูก
สร้างและประยุกต์มาจากประสบการณ์ในวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ของผมเอง

 

Narong-26-cr

 

ผมคิดว่าควายเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์และอดทน พวกมันไม่ทำร้ายใครและมีนิสัย
น่ารัก ดวงตาและรูปร่างภายนอกดูจริงใจ เป็นมิตรกับคนและสิ่งแวดล้อม
ภาพเขียนรูปควายนี้เป็นที่นิยมสำหรับชาวต่างประเทศมากและขายได้ราคาสูง
นักสะสมงานศิลปะหลายๆคนเข้าใจดีว่ามันยากเย็นแค่ใหนที่จะสร้างสรรค์
ผลงานที่โดดเด่นด้วยความอดทนและประณีตในวิถีของชาวอีสาน นอกเหนือ
จากผมแล้วยังมีศิลปินที่โดดเด่นอีกหลายท่านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ
ประเทศไทย ทุกคนพยายามที่จะใส่จิตวิญญานของชาวอีสานลงในผลงานและ
ผลงานเหล่านั้นก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน งานของศิลปินอีสานนั้นเลยระดับ
ประเทศไปแล้ว แต่ในบางครั้งคนในประเทศก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่
สำหรับตัวของผมเองแล้วผมยังไปเขียนฝาผนังและกำแพงวัดต่างๆ ตาม
บ้านเรือนและโรงเรียนต่างๆ บางครั้งผมไปเป็นครูสอนศิลปะในหลายๆโรงเรียน
ในจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผมถือว่างานลักษณะนี้เป็นการ
อุทิศเวลาและจินตนาการในการสร้างสังคมที่ดีงามและมั่นคงกว่าและยังเป็น
แรงบันดาลใจให้นักเรียนเป็นศิลปินที่ดีในวันหนึ่งตามที่พวกเขาปรารถนา

 

Narong-17-cr

 

จานีน: ดิฉันอยากทราบเรื่องของงานนิทรรศการที่เคยจัดในอดีตและจะจัดขึ้น
อีกในอนาคต

 

ณรงค์: งานแรกคือนิทรรศการเดี่ยวที่เมืองต้าหลี่ งานที่สองจัดขึ้นที่ Opium
Gallery ในพัทยาใต้ สถานที่แห่งนี้มีผู้สนับสนุนชาวต่างประเทศหลายคน งาน
ที่สามจัดขึ้นที่พระนครบาร์และงานครั้งล่าสุดคืองานที่หอศิลป์จามจุรีที่จัดขึ้น
เป็นเวลาหนึ่งเดือนในกรุงเทพ

 

Narong-24-cr

 

มีข่าวดีสำหรับทุกคนและผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะบอกว่าในปีหน้าพ.ศ. 2558 ที่จะ
ถึงนี้ ณรงค์ วรรณสา คุณศุภวัตร ทองละมุล จะจัดงานนิทรรศการร่วมที่สถาน
กงสุลอเมริกันประจำประเทศไทย ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมงานและคิด
ว่าคงเป็นเวลาที่ดีสำหรับผู้รักงานศิลปะ ศิลปินสองท่านที่มาจากอีสานที่เขียน
ภาพฝาผนังและกำแพงวัดจะกลับมาทำนิทรรศการด้วยกัน และผมจะรายงาน
เรื่องงานนิทรรศการที่จะมีขึ้นนี้ในโอกาสต่อไป

กรุณาลงความเห็น เกี่ยวกับบทความนี้

ส่ง
อีเมล์
หน้านี้

Scene4 Magazine: Janine Yasovant
จานีน ยโสวันต์ เป็นนักเขียน
เธออาศัยอยู่ในเชียงใหม่ประเทศไทย

สำหรับบทความและบทวิจารณ์อื่นๆ ของ จานีน ยโสวันต์
กรุณาตรวจดู แฟ้มเก็บข้อมูล:

Search Janine Yasovant

©2014 Janine Yasovant
©2014 Publication Scene4 Magazine

 

Sc4Logo7w-r0114

September 2014

Cover | This Issue | inView | inFocus | inSight | Perspectives | Blogs | Comments | Contact Us | Recent Issues | Special Issues Masthead | Contacts&Links | Submissions | Advertising | Subscribe | Books | Your Support | Privacy | Terms | Archives

 

Search This ISSUE

Search This Issue

Search The ARCHIVES

Search The Archives

 Share This Page

Email

Share in Facebook

Facebook

 


Scene4 (ISSN 1932-3603), published monthly by Scene4 Magazine - International Magazine of Arts and Culture. Copyright © 2000-2014 AVIAR-DKA LTD - AVIAR MEDIA LLC. All rights reserved. Now in our 15th year of publication with Worldwide Readership in 116 Countries and comprehensive archives of 8000 pages.
 

caproy-1
nudityad-728-sp
Hollywood Red: The Autobiography of Lester Cole  ©2013 Scene4 Books  www.aviarpress.com
Character Flaws by Les Marcott at www.aviarpress.com
Bookends by Carla Maria-Verdino Süllwold - Scene4 Magazine - www.scene4.com
thaiair90-cr