Scene4-Internal Magazine of Arts and Culture www.scene4.com
Arts of Thailand-Sukrit Sukrakan | Scene4 Magazine - September 2017 | www.scene4.com

สุกิจ ศุกระกาญจน์
แนวคิดละเอียดอ่อนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงาน

จานีน ยโสวันต

ในเดือนนี้ดิฉันขอแนะนำศิลปินสีน้ำที่อาศัยอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ก่อนที่
จะออกมาเป็นศิลปินอิสระ อาจารย์สุกิจเป็นครูสอนศิลปะให้กับโรงเรียนรัฐบาลสอง
แห่งในบ้านเกิดของเขาที่จังหวัดตรัง เวลานี้อาจารย์สุกิจอาศัยอยู่ และทำงานเป็น
ศิลปินสีน้ำอิสระในจังหวัดภูเก็ต ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาอาจารย์สุกิจได้มีงาน
นิทรรศการศิลปะในประเทศไทยหลายครั้งและเป็นอาจารย์สอนวิธีการเขียนภาพสี
น้ำให้กับผู้สนใจ

ต่อจากนี้เป็นบทสัมภาษณ์

จานีน: อาจารย์เคยส่งผลงานภาพเขียนไปประกวดในการแข่งขันต่างๆหรือเปล่าคะ

SS6-cr

สุกิจ: เคยส่งไปครับ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่ผมสมัครเรียนที่วิทยาลัยเพาะช่างใน
ปีพ.ศ. 2515 ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ในปีที่สามของหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ผมส่งงานภาพเขียนสีน้ำ 2 ภาพให้กับการแข่งขันทางศิลปะ 2 รายการ ภาพแรก
เป็นงานเขียนภาพรูปหุ่นนิ่งผมมาวาดในช่วงปิดเทอม แล้วกลับไปเอาส่งประกวด
ภาพที่วาดจะใช้สีค่อนข้างหนัก แสงเงาจัดจ้านแบบสไตล์มุมย้อนแสง สำหรับผล
งานภาพที่สองเป็นภาพเขียนสีน้ำรูปเรือตังเกทางภาคใต้ของประเทศไทย
ภาพเขียนทั้งสองภาพได้รับรางวัลที่สอง เพื่อนของผมได้นำภาพที่สองไปจัดแสดง
ที่งานนิทรรศการศิลปะที่บริเวณสนามหลวงในกรุงเทพ เขาบอกกับผมว่าอาจารย์
อังคาร กัลยาณพงศ์ (ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณกรรม กวีนิพนธ์ ปีพ.ศ. 2532) ที่
เป็นนักกวีและศิลปินได้ซื้อภาพเขียนของผมไป ผมรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมากและ
เต็มไปด้วยกำลังใจเพราะว่าตอนนั้นท่านอังคารยังไม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติแต่ท่าน
มีความสนใจและเห็นคุณค่าในผลงานของผม

จานีน: อยากให้อาจารย์เล่าถึงชีวิตตอนเป็นนักเรียนที่โรงเรียนเพาะช่าง

SS7-cr

สุกิจ: ในช่วงที่ผมเรียนอยู่เพาะช่าง ผมและเพื่อนร่วมชั้นเรียนสิบคนนัดรวมกลุ่มกัน
ออกไปฝึกฝนวาดภาพนอกโรงเรียนในตอนเย็น สถานที่ประจำที่ผมและเพื่อนๆไป
กันคือคลองหลอดและวัดโพธิ์เพราะเราสามารถเดินไปถึงได้เพราะอยู่ไม่ไกลเกิน
ไป พวกเราทุกคนมีความคิดแบบเดียวกันที่จะแบ่งปันเทคนิค ประสบการณ์และ
คำวิจารณ์กันในกลุ่มจะได้ปรับปรุงความรู้และทักษะทางศิลปะ จำได้ไม่ลืมคือพี่
โชคชัย ตักโพธิ์ คอยให้คำแนะนำที่มีคุณค่าในการทำงานศิลปะ รุ่นพี่เป็นไอดอล
ของพวกเราทุกๆคนเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการทำงานศิลปะ อีกสิ่งหนึ่งที่ผม
อยากจะพูดถึงก็คือว่าคุณศักดิ์สิริ มีสมสืบ หนึ่งในเพื่อนสนิทร่วมชั้นเรียนของผมที่
เพาะช่างได้รับตำแหน่งศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณกรรม (กวีนิพนธ์)ประจำปีพ.ศ.
2560

การรวมตัวกลายเป็นความผูกพัน ทำให้เราเริ่มแสวงหาครูบาอาจารย์ข้างนอก
สถาบัน ท่านแรกที่ผมไม่เคยลืมคืออาจารย์ ประเทือง เอมเจริญ ตอนนั้นท่านอยู่
ละแวกบางแค บ้านท่านอยู่ในสวน พวกเราเอางานไปให้ท่านดู ท่านมีเมตตา ชี้แนะ
วิจารณ์ ผลงานที่วาด จำได้ว่าผมขนงานไปไม่มากทั้งสีน้ำและงานวาดเส้น ท่าน
บอกว่ายังใช้ไม่ได้ต้องทำอีก ต้องทำแบบโน่นนั่นนี่ ซึ่งผมเองก็รับฟังการชี้แนะจาก
ท่าน กลับมาบ้านก็ไม่ได้ท้อถอยจากการโดนวิจารณ์งานตัวเราที่วาดไป

คราวนี้ก็เลยไปหาอาจารย์อีกท่านคือ จ่าง แซ่ตั้ง จำได้ว่าพวกเราไปหาท่านตั้งแต่
ตอนเช้า ท่านก็ด่าตำหนิพวกเราพวกเราก็ทนนั่งฟังท่านด่า หาว่าเราจะมาลองของ
บ้าง แต่พอตอนเย็นท่านก็ยอมรับพวกเราเป็นศิษย์ของท่าน นึกถึงหนังจีนกำลัง
ภายในเลยว่าโดนทดสอบทางจิตใจสูงมาก แต่ความอดทนอดกลั้นทำให้ผมได้เป็น
ลูกศิษย์ของอาจารย์ จ่าง อยู่ประมาณ 1ปีเต็ม พวกเราเกือบสิบคนที่ไปฝากตัวเรียน
วาดภาพกับท่าน ต่างได้รับการชี้แนะที่แตกต่างกันไป อาจารย์ท่านมีวิธีการสอนที่ดี
คือการสอนให้เราวาดเป็นไปแบบธรรมชาติของตัวเราเอง ท่านไม่ได้บังคับว่าเราจะ
วาดภาพแนวไหนอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านสอนเราเสมอคือความเป็นตะวันออก ใน
งาน ท่านสอนวิธีคิดและการสร้างสรรค์งานวาดภาพ เป็นครั้ังแรกที่ทำให้ผมมอง
ศิลปะที่ไม่ใช่แค่การฝึกฝนฝีมือเป็นอย่างเดียว กระบวนการคิดสร้างสรรค์ศิลปะมี
หลากหลายวิธีจริงๆ บทเรียนจากการเรียนนี้ผมไม่ได้รับจากการเรียนรู้ในโรงเรียน
เลย จุดนี้เป็นก้าวแรกของการลงลึกศึกษาวาดภาพอย่างจริงๆจังๆ งานวาดท่าน
อาจารย์จ่าง ออกแนวนามธรรม เป็นงานในแนวที่ผมชอบมากผมไม่สามารถบอกได้
ว่างามอย่างไรแต่พอผมดูงานท่านวาดงานมีชีวิตชีวามาก ไร้รูปร่าง มีแต่สีดำบน
ขาวหรือขาวบนดำบนผ้าใบ กระดาษ ท่านอาจารย์วาดภาพได้ตลอดเวลา ท่านสอน
ให้เราภูมิใจในความเป็นตะวันออก สิ่งที่ได้จากการสอนคืออาจารย์ สอนให้วาด
ภาพให้ดูแล้วมีชีวิตชีวา โดยใช้หลักการทางพุทธศาสนา คือในภาพเขียนต้อง
ประกอบด้วยธาตุทั้งสี่ คือดินน้ำลมไฟ ทุกอย่างต้องประกอบกันแล้วงานจะมีชีวิต
มองก็ไม่เบื่อ ตรงนี้เป็นความละเอียดอ่อนมาก อันเป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำงาน
มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยคสมัยที่เรียนที่เพาะช่างและกับอาจารย์ จ่าง แซ่ตั้ง
อิทธิพลเชิงบวกคือ เราทำงานด้วยความเข้าใจว่างานที่ดีจะต้องวาดอย่างไร

SS8-cr

จากประสบการณ์ของผมเอง ความลำบากสอนให้ผมมุมานะครับ เพราะตอนเรียน
แม่ส่งให้เดือนละสามร้อยบาทเป็นค่ารถ อาหาร กระดาษ อุปกรณ์การวาด ถามว่า
พอใช้ไหมตอบเลยว่าไม่พอ กระดาษต้องไปขอความเมตตาจากอาจารย์ โดยขอ
กระดาษที่ใช้วาดมาแล้วมาวาดมาฝึกเพราะต้องใช้กระดาษมาก ผมฝึกวาดเส้น
อย่างหนักที่เรียนกับอาจารย์จ่าง วาดเส้นถือว่าเป็นพื้นฐานของการวาดทั้งหมด
อาจารย์จ่างเป็นคนปากร้าย ใจดี มีเมตตาคุณธรรมสูงมาก ผมได้วิธีคิดและการวาด
ภาพให้มีชีวิตชีวาคือท่านอาจารย์จ่าง เป็นคนถ่ายทอดให้ครับ หนังสือเล่มแรกที่
ท่านเขียนแปลจากนักปราชญ์จีน คือ ต้าวเต้อจิง ลองหามาอ่านดูนะครับ

SS9-cr

จานีน: อาจารย์ทำงานอะไรหลังจบการศึกษา

สุกิจ: ตัวผมเองเมื่อจบการศึกษาจากเพาะช่างในปี2520 ผมสอบบรรจุรับราชการ
ครู ได้ที่บ้านเกิดคือ จังหวัดตรัง ในช่วงที่เรียนที่เพาะช่างตัวผมเองไม่ได้คิดว่า
ตัวเองจะมามีอาชีพเป็นครูสอนศิลปะ ตั้งใจไว้ว่าเมื่อจบการศึกษาแล้วจะใช้ชีวิต
ทำงานศิลปะ แต่ด้วยวิถีชีวิตตอนนั้นอยากมีงานทำ ก็เลยสอบบรรจุได้เป็นครู  ก็
เลยเป็นครูสอนวิชาวาดภาพ วาดเขียน ที่โรงเรียนห้วยยอด อำเภอห้วยยอด
จังหวัดตรัง พอเริ่มเป็นครู ก็ตั้งใจสอนนักเรียนอยากให้นักเรียนเก่ง มีความสามารถ
ตัวผมเองก็ต้องวาดภาพไปด้วยเพื่อสอนนักเรียน วิชาศิลปะมีความจำเป็นอย่างมาก
ของคนที่จะเป็นครูสอนศิลปะ จะต้องฝึกฝนวาดภาพบ่อยๆ ช่วงนั้นโรงเรียนที่ผมไป
สอนอยู่ต่างอำเภอ อุปกรณ์ที่พอหามาสอนได้ก็ช่างมีจำกัด เพราะร้านค้ามีแค่
กระดาษสีน้ำแบบธรรมดา สีน้ำดีๆหายากและแทบจะไม่มีขาย ผมเองสอนอยู่สอง
อย่างคือ 1การวาดเส้นแสงเงา 2 หลักการจัดภาพ3 ทฤษฏีสี หลักการระบายสี ใน
เทคนิคต่างๆ เทคนิคที่สะดวกและง่ายสำหรับผมคือการสอนวาดด้วยสีน้ำ เพราะ
สะดวกรวดเร็วมีเทคนิคหลากหลาย ตัวผมเองในขณะนั้นสำหรับการวาดภาพด้วยสี
น้ำ ถือว่ามีความรู้อันแทบน้อยนิดนึกวาดทดลองเอาเอง แต่ยังไม่ได้จริงๆจังๆอะไร
มากนัก แต่รู้สึกว่าสะดวกในการสอน ก็เลยใช้สีน้ำมาใช้ในการสอนวาดภาพให้กับ
นักเรียน

ช่วงปีพ.ศ 2544 – 2555 ผมย้ายไปสอนที่โรงเรียนแห่งที่สองและเป็นโรงเรียน
สุดท้ายคือโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ที่จังหวัดตรัง หลังจากที่ผมเกษียณอายุ
ราชการก่อนกำหนดออกมาแล้ว ผมย้ายมาอยู่และทำงานที่จังกวัดภูเก็ตจนถึง
ปัจจุบัน ผมสอนวาดสีน้ำให้กับบุคคลทั่วไปและวาดภาพสีน้ำออกมาเรื่อยๆ

จานีน: อยากให้อาจารย์พูดถึงงานนิทรรศการที่ผ่านมา

Sikit-cr

สุกิจ: เริ่มต้นเดิมทีได้เข้าร่วมส่งงานสีน้ำแสดงกับกลุ่มอันดามัน เมื่อปี2542 จัดที่
ภูเก็ต หลังจากนั้นก็เป็นนิทรรศการร่วมกับกลุ่มต่างๆมากมาย แสดงเดี่ยวครั้งแรก
ชุดสองทศวรรษ สุกิจ ศุกระกาญจน์ รวบรวมผลงานที่วาดไว้ในช่วงเป็นครูและก่อน
เป็นครู จัดแสดงเดี่ยวสีน้ำมันปีพ.ศ. 2545 ชุด impression from the heart ที่
ภูเก็ต ช่วงนั้นยังไม่เกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ก็แสดงร่วมกับกลุ่มต่างๆมา
เรื่อย เป็นสมาชิกของ สมาคมทัศนศิลป์นานาชาติแห่งประเทศไทยร่วมแสดงงาน
ทุกๆปี พอตอนปีพ.ศ. 2553 เริ่มวางแผนชีวิตจะออกจากราชการเดินตามฝันของ
ตัวเองมาทำงานศิลปะ เลยใช้สีน้ำเป็นการฝึกฝนเตรียมตัวเข้าสู่สิ่งที่ฝันคือวาดภาพ
เต็มตัว ฝึกตลอดทุกๆวันๆละ5 - 10ภาพ จนปีพ.ศ. 2555 ได้เกษียณออกจาก
ราชการครู เลยเริ่มเอาผลงานที่ตัวเองฝึกซ้อมมาจัดนิทรรศการการสีน้ำโดยใช้ชื่อ
ว่า "สุขกับสีน้ำ" เป็นแบรนด์ประจำตัวทุกๆครั้งทุกๆปีที่แสดงก็ใช้ชื่อนี้จนถึงปัจจุบัน

จานีน: อาจารย์รู้สึกอย่างไรกับจังหวัดภูเก็ต

SS3-cr

สุกิจ: ครั้งแรกในตอนเป็นนักเรียนเคยมากับลุงๆป้าๆ มาเห็นอาคารเก่าๆสไตล์ชิโน
โปรตุกีสแล้วมีความฝันว่าอยากมีบ้านอยู่ที่นี่เพราะภูเก็ตเป็นเมืองที่สงบมากในยุค
นั้น ความทรงจำเลยฝังใจกับความงดงามของสถาปัตยกรรมบ้านอาคารเก่าเมือง
ภูเก็ตเลยชอบวาดตึกเก่าภูเก็ตมาก สำหรับภูเก็ตแล้วถือว่ามีทรัพยากรธรรมชาติที่
งดงามทุกมุมมองเมืองรอบๆเกาะก็ว่าได้ ตัวผมเองชอบวาดภาพเรือประมงไทยทั้ง
ใหญ่เล็ก ผมชอบสีสันและรูปร่างของเรือความชอบไม่ต้องมีเหตุผลแต่มันคือแรง
บันดาลใจที่ไม่เบื่อหน่ายเมื่อผมได้วาดเรือท่ามกลางแสงแดดจัดๆความสุขที่ได้
ตวัดปลายพู่กันบันทึกความประทับใจอย่างรวดเร็วสีน้ำสามารถตอบสนองอารมณ์
ผมได้เป็นอย่างดี

จานีน: อาจารย์มีคำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากเรียนวาดรูปสีน้ำไหมคะ

สุกิจ: สำหรับสีน้ำผมรู้สึกว่า เป็นสีที่มีความท้าทายในการวาดสูงมาก เราไม่
สามารถควบคุมมันได้ทั้งหมดเมื่อเราเริ่มวาดมันเหมือนกับเริ่มต้นเดินทางไปหา
ปลายทางที่อยากจะเห็น แต่สีน้ำมันเหมือนการเดินทางบนท้องถนนที่หลากหลาย
มีทั้งเรียบ ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อเราต้องพยายามควบคุมให้ได้มากที่สุดสิ่งที่
อยากจะบอกสำหรับคนวาดภาพด้วยสีน้ำว่า จะต้องฝึกวาดทุกๆวันอย่าทิ้งไปนาน
ไม่งั้นจะต้องมาเริ่มใหม่หมด องค์ประกอบของสีน้ำมันไม่ง่ายเพราะต้องเรียนรู้
กระดาษ เทคนิคการระบายสีในสภาวะที่แตกต่างกันในด้านเรื่องราว

SS11-cr

สิ่งที่ผมหลงเสน่ห์ของสีน้ำคือการวิ่งของสีที่เราต้องควบคุมให้ได้ มันสนุกมากถ้า
เราควบคุมได้ หลายๆคนที่อยากฝึกอาจจะเกิดความท้อถอย ผมบอกเลยครับว่า สี
น้ำไม่ทีทางลัด มันต้องฝึกแทบทุกวันต้องเรียนรู้ทุกๆวันต้องฝึกแก้ปัญหาเมื่อสีที่
เราวาดไม่เป็นไปตามเราที่คาดหวัง การฝึกฝนเท่านั้นที่จะให้คำตอบว่างานเราดีไม่
ดีพัฒนาไปอย่างไร ผมเองก็ดูและสังเกตการพัฒนาการของตัวเองมาตลอด
ความสุขและความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ต้องฝึกฝนมีวินัยกับตัวเอง ไม่ปล่อยให้ความ
ขี้เกียจมาเป็นข้ออ้าง จริงอยู่อารมณ์ในการวาดจำเป็นต้องมีแต่เราก็ต้องฝึกมองสิ่ง
ที่เราประทับใจที่อยากวาดแล้วเริ่มต้นวาดในสิ่งนั้นๆ เมื่อความสุขมีอารมณ์ก็จะ
ตามมา

เรื่องสุดท้ายที่อยากจะบอกสำหรับคนที่อยากจะเดินทางเรียนรู้ท่องไปในโลก
ของสีน้ำว่าวินัยต้องมาก่อนเสมอ ฝึกฝนอ่านดูศึกษา สัมผัสทั้งทางตาความจำ
และที่สำคัญคือการปฏิบัติ

กรุณาลงความเห็น เกี่ยวกับบทความนี้

Scene4 Magazine: Janine Yasovant

ส่ง
อีเมล์
หน้านี้

จานีน ยโสวันต์ เป็นนักเขียน
เธออาศัยอยู่ในเชียงใหม่ประเทศไทย
สำหรับบทความและบทวิจารณ์อื่นๆ ของ จานีน ยโสวันต์
กรุณาตรวจดู แฟ้มเก็บข้อมูล

Click Here for this article in English

©2017 Janine Yasovant
©2017 Publication Scene4 Magazine

 

 

Now that you’re here…
We have a small favor to ask. More people are reading Scene4 than ever but advertising revenues across the media are falling fast. And our costs are rising faster than we can absorb them. So you can see why we need to ask for your help. In its 18th year of publication, now with over 194,000 readers in 127 countries and comprehensive archives of over 11,000 pages Scene4 is truly an International Magazine of Arts and Culture.

Become a supporter
Make A Contribution

 Trending in This Issue

Arts of Thailand

SS1-crs-200

Niggerized

Trending2

Baby Driver

babydriver-200

 Playing the Wizard

Trending2
Sc4-solo--logo62h

September 2017

Volume 18 Issue 4

SECTIONS:: Cover | This Issue | inView | inFocus | inSight | Perspectives | Special Issues | Blogs COLUMNS:: Bettencourt | Meiselman | Thomas | Jones | Marcott | Walsh | Alenier :::::::::: INFORMATION:: Masthead | Subscribe | Submissions | Recent Issues | Your Support | Links CONNECTIONS:: Contact Us | Contacts&Links | Comments | Advertising | Privacy | Terms | Archives

Search This Issue

|

Search The Archives

|

Share:

Email

fb  


Scene4 (ISSN 1932-3603), published monthly by Scene4 Magazine–International Magazine of Arts and Culture. Copyright © 2000-2017 Aviar-Dka Ltd – Aviar Media Llc. All rights reserved. Now in our 18th year of publication with Worldwide Readership in 127 countries and comprehensive archives of over 11,000 web pages (66,000 print pages).
 

Scientific American - www.scene4.com
Calibre Ebook Management - www.scene4.com
Thai Airways at Scene4 Magazine