อินไซท์

Scene4 Magazine: Arts of Thailand - Interview | Wimonlack Blom-Boonvises - Organic Farming In Asia | Janine Yasovant | August 2012 | www.scene4.com

จานีน ยโสวันต์

วิมลลักษณ์ บลูม-บุญวิเศษ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในปี 1979 เธอเริ่ม
งานแรกที่ IAEA(สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ) ที่กรุงเวียนนา ประเทศ
ออสเตรีย หลังจากนั้นไปประเทศสวีเดนเพิ่อศึกษาระดับมหาบัณฑิต และได้งานแรก
เป็นผู้ช่วยทูตพาณิชย์ที่สถานทูตไทยในกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดนระหว่างปี 1985-1990
ในช่วงปี 1991-1995 ได้มีโอกาสเข้าทำงานในบริษัท Sweco ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา
ใหญ่ที่สุดในด้านการออกแบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม น้ำ พลังงาน และโครงสร้าง
พื้นฐาน

WBB1-cr

ในปี 1995 หอการค้าไทย-สวีเดนที่กรุงเทพฯ เสนองานให้ในตำแหน่งผู้อำนวยการจึง
ได้ย้ายกลับมาประเทศไทยบ้านเกิดด้วยความยินดีที่ได้รับโอกาสเป็นสะพานเชื่อมโยง
ระหว่างไทยและสวีเดน แต่เมื่อย้ายกลับมาก็ปรากฏว่ามีงานใหม่อีกงานหนึ่งเข้ามาเสนอ
จากคณะกรรมการอุบัติภัยแห่งชาติสวีเดนซึ่งได้แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการโครงการสำหรับ
การประเมินความเสี่ยงในภาคเหนือของประเทศไทย เป็นงานที่ยากมาก วิมลลักษณ์
และนักดับเพลิงอีกสองร้อยกว่าคนจากประเทศไทยถูกส่งสำหรับการฝึกอบรมใน
ประเทศสวีเดนและนี่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตตอนที่กลับมายังประเทศไทย

ดิฉันพบและสัมภาษณ์คุณวิมลลักษณ์ที่โรงแรมโอเรียนเต็ลดาราเทวีเชียงใหม่ในวันที่
ฝนตกพรำๆ เดือนกรกฎาคม

จานีน: ดิฉันได้ตามการทำงานของคุณเป็นเวลาหลายปีและอยากเหตุผลที่คุณ
ย้ายกลับไปเมืองไทยเพื่อทำงานร่วมกับคนยากคนจนระดับรากหญ้า

วิมลลักษณ์: ดิฉันได้รับการเลี้ยงดูโดยครอบครัวที่ทันสมัย คุณแม่ขอดิฉันสนับสนุน
ให้ดิฉันทำงานอย่างอิสระและพึ่งพาตัวเอง ดิฉันได้เดินทางไปหลายประเทศและเห็น
โลกกว้างตั้งแต่ยังเด็ก ในขณะที่ทำงานกับ IEAE ดิฉันได้เข้าใจความหมายของคำว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อขจัดความยากจนในโลกดิฉั นสนใจเรื่องผู้คนและภาษา
สามารถพูดภาษายุโรปได้ 4-5 ภาษา เช่นเยอรมันดัตช์สวีเดน ฟินแลนด์ และ
ภาษาอังกฤษ ดังนั้นดิฉันจึงใช้ภาษาเข้าไปเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์และมี
ความคิดที่จะเติมเต็มความฝันของฉันเป็นในการเป็นเกษตรกรอินทรีย์และการทำงานกับ
คนยากคนจนที่ด้อยโอกาส ดิฉันเห็นธรรมชาติที่ถูกทำลายโดยการเกษตรกรรมแบบใช้
สารเคมี

จานีน: คุณเป็นคนที่มีศักยภาพและการใช้ชีวิตของคุณในอดีตที่ผ่านมาคุณเคยบอก
ดิฉันว่าคุณสนุกกับชีวิตของคุณในยุโรปที่คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีเหตุผลอะไรที่ละทิ้ง
ความสะดวกสบายกลับมาเมืองไทยคะ

วิมลลักษณ์: ดิฉันได้มีโอกาสทำงานด้านการพัฒนาให้กับสำนักงานเพื่อความร่วมมือ
ทางวิชาการ GTZ-เยอรมัน เป็นเวลาหลายปีสำหรับโครงการนิคมอุตสาหกรรมเชิง
เศรษฐนิเวศ  และในช่วงที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจภาคอุตสาหกรรมสูงสุดในปี
2005 ดิฉันได้ตัดสินใจที่จะย้ายจากกรุงเทพฯ และออกมาเป็นเกษตรกรอินทรีย์ ซึ่ง
ฟาร์มของดิฉันได้รับการรับรองในปี 2002 เป็นฟาร์มแรกด้วยมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
TAS No.001 ของประเทศไทย และมาตรฐาน JAS-OMIC No.1123 ของประเทศญี่ปุ่น
ดิฉันได้แบ่งปันความรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ให้กับกลุ่มเกษตรกรต่างๆ โดยเฉพาะ
ชาวไทยภูเขาที่อยู่บนภูเขาสูงในประเทศไทยในฐานะอาสาสมัครที่ทำงานมาตลอด 8 ปี
ที่ผ่านมา วันนี้ดิฉันมีบทบาทอื่นคือเป็นผู้จัดการ OneCertประเทศไทย จำกัด สำหรับ
การตรวจสอบและการรับรองเกษตรอินทรีย์ บริษัทฯ มีนโยบายในการทำข้อตกลงกับ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ในเชียงใหม่ ดิฉันมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
และความพร้อมในทุกๆ ด้าน สามารถมีบทบาทสำคัญที่เป็นครัวของโลกบน
พื้นฐานของการทำเกษตรอินทรีย์

Oulong-Tea-Plant-cr

จานีน: อะไรคือความท้าทายและอุปสรรคในการขยายการทำเกษตรอินทรีย์และ
การตลาดในภูมิภาคเอเชีย

วิมลลักษณ์: ทุกวันนี้ก็เป็นที่ชัดเจนมากขึ้นว่าการผลิตเกษตรอินทรีย์ของเราควรสนอง
ความต้องการของตลาดในประเทศและเราไม่เพียงแต่จะผลิตเพื่อการส่งออกเพียงอย่าง
เดียวเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ตลาดในประเทศของเราใช่แต่ประเทศไทย แต่เป็นทั้ง
ภูมิภาคอาเซียนทั้งหมด การค้าเสรีโดยไม่ต้องมีเขตแดนในอาเซียนจากปี 2558/2015
เป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับและหาทางเพื่อปรับปรุงการแข่งขันเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ใน
อนาคต

จานีน: คุณคิดว่าเกษตรอินทรีย์สามารถแทนที่การทำการเกษตรแบบเคมีทั่วไปได้ไหมคะ

วิมลลักษณ์: แน่นอนค่ะปัจจุบันนี้เรามีปุ๋ยและปัจจัยการผลิตแบบอินทรีย์โดยไม่ต้องพึ่ง
สารเคมีเกษตร เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการเกษตรแบบเคมีและการผลิตแบบเชิง
เดี่ยว ได้ก่อให้เกิดปัญหามากในโลก เราได้ทำลายดิน ทำลายน้ำพื้นดินของเราและ
ระบบนิเวศของเราที่ผ่านมา 50 ปีเต็มไปด้วยสารพิษจากเคมีเกษตร ซึ่งมีคนเป็นจำนวน
มากในโลกนี้ทรมานจากโรคต่างๆ ที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อน และเกษตรกร
ยังยากจนและอดอยาก ดิฉันเชื่อว่าการเคลื่อนไหวด้านเกษตรอินทรีย์นี้จะส่งเสริมให้คน
ไม่ว่าจะในเมือง หรือชนบทเริ่มมีความปลอดภัยของอาหารและความมั่นคงของอาหาร
ของเขาเองอยู่บนพื้น ฐานของการปฏิบัติในฟาร์มแบบเกษตรอินทรีย์ในการผลิตอาหาร
ที่มีทั้งคุณภาพและอาหารที่กินเป็นยา

จานีน: คุณหมายความว่าอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องอาหารที่กินเป็นยา

วิมลลักษณ์: ภูมิภาคเขตร้อนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา มีความหลากหลายทาง
ชีวภาพ มีพืชสมุนไพรหลากหลายชนิดในป่าที่มีผลในการรักษาโรค แต่ด้วยการทำการ
เกษตรแบบดั้งเดิมที่เราได้ทำลายไปมากจากป่าไม้ของเราที่เราเก็บเกี่ยวอาหารและยา
รักษาโรคทั้งสอง การใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีกำจัดวัชพืชในขนาดใหญ่ในภูมิภาคนี้
ทำให้พืชหลายชนิดของตลอดจนนกและสัตว์จะหายไปตลอดกาล ปัจจุบัน ประเทศใน
อาเซียนร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการใช้ยาแบบดั้งเดิมเพื่อป้องกันและรักษาโรค ในเวลา
เดียวกันพยายามที่จะหาวิธีที่จะรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในป่า แลกเปลี่ยน
ความรู้และข้อมูลในกลุ่มประเทศอาเซียนเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะมีประโยชน์
เพื่อความปลอดภัยทางการบริโภคและการค้าในอนาคต

WBB-1-Thaifex-cr

จานีน: อะไรคืออุปสรรคของเกษตรกรอินทรีย์ในภูมิภาคเอเชีย

วิมลลักษณ์: ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาสำคัญสำหรับเกษตรกรไม่เพียงแต่ในเอเชีย
เท่านั้น แต่เป็นปัญหาของทั่วโลก ภัยแล้งและน้ำท่วมเป็นเรื่องปกติมากในเอเชียวันนี้
นอกจากนี้ยังมีการขาดแรงงานรุ่นใหม่ในภาคการเกษตร ที่มีความรู้ทักษะและความ
ชำนาญเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ ขาดเมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอินทรีย์
และขาดปัจจัยการผลิตที่เป็นอินทรีย์ ในเอเชียยังไม่ได้เริ่มเรื่องการชดเชยจากรัฐบาล
ยังไม่มีการรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งพื้นดินทางน้ำและทางทะเล ยังคงไม่มีกลไกราคา
การตลาดอย่างยั่งยืนสำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์

จานีน: อะไรคือข้อเสนอแนะของคุณเพื่อสนับสนุนการเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาค
เอเชีย

วิมลลักษณ์: เกษตรกรในเอเชียส่วนใหญ่มีพื้นที่การเกษตรขนาดเล็ก จะต้องมีการ
รวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ปลูก เพื่อให้สามารถเข้าถึงตลาดอินทรีย์ด้วยกัน รัฐบาลในเอเชีย
ควรพิจารณาให้การสนับสนุนทางการเงินและการให้ความช่วยเหลือเรื่องการตลาด
สำหรับกลุ่มผู้ปลูกคือการจัดโครงการจับคู่ระหว่างผู้ผลิตและ ผู้ซื้ออินทรีย์อินทรีย์ทั้งใน
ประเทศและต่างประเทศ

จานีน: อะไรที่คุณอยากจะนำเสนอ

วิมลลักษณ์: ดิฉันในฐานะในฐานะผู้ประสานงานของหน่วยงาน OneCertเป็น CB
หน่วยงาน สำหรับการรับรองการผลิตเกษตรอินทรีย์ในภูมิภาคเอเชียดิฉันเล็งเห็น
ความสำคัญของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สำหรับเกษตรกรที่จะนำผลิตภัณฑ์ของตนไป
ยังตลาดทั่วโลก ว่าจะต้องรับรองโดยหน่วยงาน CBซึ่งเป็นการรับรองโดยบุคคลที่สาม
ที่มีความน่าเชื่อถือและการยอมรับในหมู่ผู้บริโภค การรับรองเกษตรอินทรีย์ในระดับ
สากลสำหรับทั้งผลิตภัณฑ์อาหารและไม่ใช่อาหารเช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และ ปัจจัย
การผลิต สามารถสร้างความเข้มแข็งความเชื่อมั่นในหมู่ผู้บริโภคว่าไม่ว่าพวกเขาอยู่ใน
โลกและการติดฉลากแบบสากลจะเป็นที่ยอมรับทั่วโลกโดยไม่มีข้อสงสัย บทบาทของ
ดิฉันในฐานะผู้ประสานงานของหน่วยงาน OneCert คือการสนับสนุนให้มีเกษตรกรที่
สนใจมากขึ้น ที่จะนำการผลิตของพวกเขาเข้าสู่กระบวนการผลิตแบบอินทรีย์มันไม่
เพียงที่ดีสำหรับธุรกิจของพวกเขาอย่างยั่งยืน แต่ยังดีต่อสุขภาพของเกษตรกรเอง
เกษตรอินทรีย์สามารถลดต้นทุนการผลิต, ช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูดิน น้ำ และสภาพ
แวดล้อม ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ  อาหารอินทรีย์ไม่เพียง แต่เพื่อสุขภาพ แต่มีรสชาติที่ดีและมี
คุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าอาหารทั่วไปที่ผลิตโดยใช้เคมี นอกจากนี้อาหารอินทรีย์ยัง
มีอายุการเก็บรักษานานกว่า

จานีน: อะไรที่คุณต้องการมากที่สุด

วิมลลักษณ์: ฉันต้องการให้ผู้บริโภคมีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าที่พวกเขาซื้อ ทั้ง
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหาร ผู้บริโภคควรจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
สุขภาพของพวกเขา และให้พวกเขาตระหนักมากขึ้นเรื่องความปลอดภัยของอาหารและ
การตรวจสอบย้อนกลับ  เพื่อความปลอดภัยของอาหารผู้คนส่วนหนึ่งได้เริ่มปลูกผักของ
ตัวเองที่บ้านเพื่อการบริโภคของ ดิฉันเคยเห็นเด็กที่โรงเรียนในประเทศสิงคโปร์ปลูกผัก
ของตัวเองบนบริเวณดาดฟ้าของตึกและมันเป็นสิ่งที่น่ายินดีที่เด็กๆได้เห็นผลผลิตที่เขา
ปลูกมากับมือ

จานีน: คุณหมายความว่าอินทรีย์ดีสำหรับผู้บริโภคทุกคนหรือไม่

วิมลลักษณ์: ใช่ค่ะ อาหารที่ปลอดภัยจะต้องสำหรับทุกคน ดิฉันต้องการทำเกษตร
อินทรีย์กลายเป็นเรื่องธรรมดาและราคาสำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์มีราคาไม่แพง
จากนั้นทำการเกษตรเพาะปลูกเคมีจะน้อยลงและต่อไปข้างหน้า การ เกษตรเคมี
เชิงเดี่ยวจะไม่เป็นที่นิยมสำหรับเกษตรกรในภูมิภาคนี้ ดิฉันหวังว่าเกษตรกรทั่วไป ที่มี
การผลิตบนพื้นที่ขนาดเล็ก จะมีการทำงานรวมกลุ่มผู้ปลูกเข้าด้วยกัน และในอนาคต
พวกเขาจะสามารถจ่ายค่ารับรองเกษตรอินทรีย์ในระดับสากลได้ ในกรณีผลิตเพื่อการ
ส่งออก ดิฉันหวังที่จะเห็นเกษตรกรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น มีคนมากขึ้นที่ส่งเสริมการทำ
เกษตรอินทรีย์ ในฐานะนักลงทุน มีคนมากขึ้นที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการรับรอง
ในฐานะผู้ตรวจประเมินและผู้ให้การรับรอง ดิฉันต้องการที่จะเห็นผลิตภัณฑ์ในตลาด
ได้รับมาตรฐานอินทรีย์มากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปอินทรีย์ สิ่งทออินทรีย์
เครื่องดื่มอินทรีย์ชาและกาแฟชนิดพิเศษแบบอินทรีย์ ธุรกิจอินทรีย์เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
ความซื่อสัตย์ และตรวจสอบได้ เพื่อให้เราก้าวไปข้างหน้าตลอดทางด้วยความมุ่งมั่น
ความซื่อสัตย์สุจริต ความไว้วางใจ และ ความเชื่อมั่น นอกจากนี้ดิฉันยังภูมิใจมากที่ได้
เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการอินทรีย์ที่มีความงดงามบนพื้นฐานของความยั่งยืนนี้ ดิฉัน
ต้องขอกราบขอบพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พ่อหลวงของ
ชนชาวไทยสำหรับงานหนักที่พระองค์ได้กระทำและ ความมุ่งมั่นตลอดพระชนม์ชีพที่
ผ่านมา เป็นตัวอย่างให้กับชีวิตของดิฉันที่เทิดทูนอย่างสูงสุด พระองค์ไม่เพียงแต่จะ
ช่วยพสกนิกรของพระองค์เท่านั้นแต่ยังแผ่ขยายออกไปช่วยชาว โลกให้เข้าใจถึง
ปรัชญาชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงความปลอดภัยของอาหาร ความมั่นคงด้านอาหาร
สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อขจัดความอดยากและความยากจนให้หมดไปจากโลกนี้

กรุณาลงความเห็น เกี่ยวกับบทความนี้

ส่ง
อีเมล์
หน้านี้

©2012 Janine Yasovant
©2012 Publication Scene4 Magazine

Scene4 Magazine: Janine Yasovant
จานีน ยโสวันต์ เป็นนักเขียน
เธออาศัยอยู่ในเชียงใหม่ประเทศไทย

สำหรับบทความและบทวิจารณ์อื่นๆ ของ จานีน ยโสวันต์
กรุณาตรวจดู แฟ้มเก็บข้อมูล

August 2012

Scene4 Magazine - Arts and Media

®

August 2012

Cover | This Issue | inFocus | inView | reView | inSight | inPrint | Perspectives | Books | Blogs | Comments | Contacts&Links Masthead | Submissions | Advertising | Special Issues | Contact Us | Payments | Subscribe | Privacy | Terms | Archives

Search This Issue Share This Page

Scene4 (ISSN 1932-3603), published monthly by Scene4 Magazine - International Magazine of Arts and Media. Copyright © 2000-2012 AVIAR-DKA LTD - AVIAR MEDIA LLC. All rights reserved.

Now in our 13th year of publication with
comprehensive archives of over 6500 pages 

thaiair1
sciam-subs-221tf71
Character Flaws by Les Marcott at www.aviarpress.com
Gertrude Stein-In Words and Pictures - Renate Stendhal